พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในการมอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาประจำปีการศึกษา 2565

                  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ในการมอบปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันการอาชีวศึกษาและสถาบันการอาชีวศึกษาเกษตร ประจำปีการศึกษา 2565 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี
                   โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา คณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สถาบันการอาชีวศึกษา คณาจารย์ และนักศึกษา ร่วมต้อนรับ
                   ในโอกาสนี้ นายเกษม วัฒนชัย องคมนตรี ได้ให้โอวาทแก่บัณฑิตสถาบันการอาชีวศึกษา ความตอนหนึ่งว่า “ขอแสดงความชื่นชมกับผู้ทรงคุณวุฒิ และบัณฑิตทุกคนที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ สถาบันการอาชีวศึกษา เป็นสถาบันอุดมศึกษาด้านวิชาชีพและเทคโนโลยี ซึ่งมุ่งเน้นให้บัณฑิตออกไปประกอบวิชาชีพตามความถนัด และความสนใจของตน แต่ปัจจุบันอาชีพการงานต่าง ๆ ได้เปลี่ยนแปลงพัฒนาไป ตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงของโลก จำเป็นที่บัณฑิตจะต้องเรียนรู้ ทำความเข้าใจ และปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง จึงขอให้ทุกคนหมั่นฝึกฝนพัฒนาตนเองอยู่เสมอ ให้มีความรู้ที่กระจ่างชัดเจน มีทักษะการปฏิบัติงานที่หลากหลาย มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีต่าง ๆ และมีความสามารถที่จะนำความรู้ ทักษะความเชี่ยวชาญไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับงาน และสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ข้อสำคัญ แต่ละคนจะต้องมีคุณธรรมความสุจริต เป็นเครื่องกำกับการปฏิบัติงาน ให้ดำเนินไปในทางที่ถูกต้อง และสำเร็จผลที่ดี ที่เจริญ ถ้าทำได้ดังนี้ ไม่ว่าบัณฑิตจะประกอบอาชีพการงานใด ก็จะสามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ และความเจริญมั่นคงให้แก่ตนเอง และชาติบ้านเมืองได้อย่างเต็มภาคภูมิ ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้บัณฑิตทุกคนมีกำลังกาย กำลังใจ กำลังปัญญาสมบูรณ์พร้อม และประสบความสำเร็จในการประกอบกิจการงาน ดังที่มุ่งประสงค์ ทั้งขอให้ทุกท่านที่มาร่วมในพิธีนี้ มีความสุขสวัสดีโดยทั่วกัน”
                  นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับอาชีวศึกษามาก เพราะเป็นการศึกษาที่ผลิตและพัฒนากำลังคน ขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศโดยแท้จริง การที่สถาบันการอาชีวศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาทั้ง 23 แห่ง ผลิตผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ เพื่อต่อยอดให้ผู้เรียนอาชีวศึกษา ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ได้สั่งสม บ่มเพาะ ทักษะฝีมือ จนเป็นบัณฑิตสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการได้ นับเป็นบทบาทสำคัญของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาอีกด้านหนึ่ง ขอให้บัณฑิตนำความรู้ วิชาการ วิชาชีพ ไปปฏิบัติหน้าที่การงานให้เกิดประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง และส่วนรวมต่อไป
                  ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า ในปีการศึกษา 2565 มีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สายเทคโนโลยี หรือ สายปฏิบัติการ หลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต สาขาวิชาต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 4,472 คน โดยมีผู้เข้ารับมอบปริญญาบัตร จำนวน 2,633 คน เป็นบัณฑิตพิเศษ 6 คน จากสถาบันการอาชีวศึกษา 23 แห่ง สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และมีผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งสภาสถาบันการอาชีวศึกษา ได้อนุมัติปริญญาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จำนวน 5 คน
                   ทั้งนี้ สถาบันการอาชีวศึกษา มีภารกิจหลักในจัดการศึกษา ด้วยระบบทวิภาคีคุณภาพสูง พัฒนาหลักสูตรปริญญาตรีสายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ สาขาวิชาใหม่ ๆ เพื่อผลิตและพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูง ที่สอดคล้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต โดยใช้กลไกความร่วมมือทางวิชาการร่วมกับสถานประกอบการ ภาคีเครือข่ายทั้งภายใน และต่างประเทศ ส่งเสริมการวิจัย สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมและเทคโนโลยี การบริการวิชาการและวิชาชีพพัฒนาชุมชนและสังคม ทะนุบำรุงศาสนา ศิลปวัฒนธรรม และความเป็นไทย
“ผมขอชื่นชมในความวิริยะ พากเพียรของบัณฑิตทุกคน ในการศึกษาจนสำเร็จในวันนี้ ขอให้บัณฑิตทุกคนระลึกเสมอว่า ท่านเป็นผู้มีคุณค่าแก่ปริญญาอันทรงเกียรตินี้ นำมาซึ่งความภาคภูมิใจต่อครอบครัว ขอให้นำความรู้ ไปสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าให้แก่ตนเอง และประเทศชาติสืบไป”
ศูนย์ประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างภาพลักษณ์อาชีวศึกษา

About Post Author